ข่าวเศร้า ผู้รักษาประตูถูกฟ้าผ่ากลางสนามบอล ที่บ้านฉาง ระยอง

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลา ประมาณ 12.00น. มูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์บ้านฉาง ได้รับแจ้งจากวิทยุ ให้เข้ารับผู้ป่วยที่ถูกสายฟ้าผ่า ณ สนามฟุตบอลหน้าโรงพักบ้านฉาง จึงได้รีบเข้าช่วยเหลือ พบเป็นชายผู้รักษาประตู นอนหงายคาสนาม ไร้ชีพจร จึงได้ช่วยให้การปั๊มหัวใจจนชีพจรกลับคืนมา และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านฉาง ทีมแพทย์ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลจนมีอาการรู้สึกตัวแต่ชีพจรยังคงต่ำ จึงได้นำตัวส่งต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มาบตาพุด แพทย์ได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด จนในเวลาต่อมาผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตลง

ทราบชื่อ คือ นายกิติศักดิ์ ฟูฟุ้ง หรืออาร์ท อายุ 35 ปี เป็นผู้รักษาประตูที่เข้าสู่วงการฟุตบอล อนาคตกำลังไปได้ดี เป็นมือหนึ่งของการเป็นผู้รักษาประตูเดินสายเล่นบอล ก่อนเกิดเหตุได้ลงเล่นที่สนามฟุตบอลบ้านฉาง โดยการจัดของ สภ.บ้านฉาง ซึ่งจัดเป็นครั้งแรก ดาวพิทักษ์ โอเพ่นคัพ ชิงเงินรางวัล 50,000บาท การแข่งขันถูกจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 12-14 ต.ค. ทำให้การแข่งขันเป็นอันต้องยุติ ส่วนสาเหตุของฟ้าผ่าลงมาบริเวณสนามยังไม่ทราบสาเหตุ ว่าเกิดจากสายฟ้าหรือมีเหตุอย่างอื่นด้วยหรือไม่

นายเจษฎากร กู้ภัยพุทธธรรมบ้านฉาง ที่ได้รับแจ้ง เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งก็เดินทางมาช่วยเหลือ พบว่าผู้บาดเจ็บไม่มีชีพจรจึงส่งต่อยัง รพ.สมเด็จพระเทพฯ แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะชมการแข่งขันระบุว่า ระหว่างที่แข่งอยู่นั้น ฝนตกลงมาอย่างหนักแต่เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะหมดเวลา จู่ๆ เกิดมีฟ้าผ่าลงมาเป็นสายที่บริเวณตึกริมถนนสุขุมวิทหลังโกล์ ทำให้นายกิตติศักดิ์ที่ยืนใกล้ที่สุดล้มลงไปนอนกับพื้น มีอาการเกร็งที่มือและเท้า หมดสติ ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกส่งตัวไป รพ. สุดท้ายต้องมาจบชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนศพญาติได้กำหนดรดน้ำที่วัดโพธิ์ทองพุทธาราม ต.ทางเกวียน อ.แกลง ระยอง บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต

ขอขอบคุณข่าวจาก https://www.thaich8.com/news_detail/138439

(Thai) ฟ้าผ่าลงกลางบ้าน

เหตุการณ์หายากเมื่อ ฟ้าผ่าเข้ามาลงกลางบ้านโพสโดยผู้ใช้ Tiktok ชื่อ @boaveechannel


หนุ่มลูกจ้างเทศบาล ขึ้นต้นไม้เก็บลองกองตอนฟ้าร้อง แล้วโดนฟ้าผ่าดับคาที่

สลด หนุ่มลูกจ้างเทศบาล ขึ้นต้นไม้เก็บลองกองตอนฟ้าร้อง แล้วโดนฟ้าผ่าดับคาที่ เผยผู้เสียชีวิตเป็นคนขยันทำงานจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา

 

วันที่ 21 ก.ย.2566 พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ จันทรวัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางแก้ว จ.พัทลุง รับแจ้งเหตุฟ้าฝ่ามีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดในสวนอาหารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 10 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง จึงไปตรวจสอบพร้อม นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.หน่วยกู้ภัยแม่ขรี

ที่เกิดเหตุ บริเวณต้นลองกองในสวนอาหารดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างนายสมคิด อายุ 47 ปี เสียชีวิตในสภาพไหม้เกรียมทั้งตัว เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นลูกจ้างของเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เป็นคนขยันทำงานจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา

ก่อนเกิดเหตุนายสมคิด ได้เข้าไปรับจ้างตัดหญ้าที่สวนอาหารดังกล่าว เมื่อตัดเสร็จ เจ้าของสวนชวนให้ทานลองกองที่กำลังสุกเต็มต้น โดยได้ใช้บันไดอลูมิเนียมสูง 3 เมตร ขึ้นไปเก็บผลลองกองในสวนดังกล่าวในช่วงที่มีเสียงฟ้าร้อง ในขณะที่นายสมคิดเก็บผลลองกองอยู่นั้นก็ได้ถูกฟ้าฝ่าร่างนายสมคิดจนตกลงมาด้านล่างในสภาพที่ร่างเกรียมไหม้เสียชีวิต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบหมายให้กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติมที่ รพ.บางแก้ว และมอบศพให้ญาติๆนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป

ขอขอบคุณ ข่าวสด https://www.khaosod.co.th

นาทีสะพรึง เครื่องบินโดยสาร โดนฟ้าผ่าเต็มๆ ในสหรัฐฯ

เปิดนาทีเครื่องบินโดยสารสายการบินอเมริกัน อีเกิล โดนฟ้าผ่าเต็มๆ ในสหรัฐฯ ขณะนักบินจอดเครื่องบินรอให้พายุเบาลง หลังนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินในรัฐอาร์คันซอ

สื่อต่างประเทศและเดลี่เมล เผยแพร่คลิปนาทีสุดสะพรึง เครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน อีเกิล ถูกฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ขณะนักบินนำเครื่องบินโดยสาร ซึ่งเป็นเครื่องบิน Embraer E175 ฝ่าพายุลงจอดที่สนามบินเมืองลิตเทิลร็อก รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อบ่ายวันที่ 25 มิ.ย. 2566 ตามเวลาท้องถิ่น และนักบินได้ตัดสินใจจอดเครื่องบินรอเพื่อให้พายุเบาลง ก่อนจะนำเครื่องบินไปส่งผู้โดยสารที่ ‘เกต’ หรือประตูขึ้นเครื่องบิน

คลิปวินาทีเกิดฟ้าผ่าเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน อีเกิลอย่างน่ากลัวในครั้งนี้ ถูกบันทึกไว้ได้ทันโดย ช่างภาพ ซึ่งมีชื่อใน Viral Press ว่า Jason William Hamm โดยเขาเล่าว่า สามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ฟ้าผ่าเครื่องบินได้ทัน หลังจากได้ยินคนพูดคุยกันเกี่ยวกันการเกิดฟ้าผ่าในบริเวณดังกล่าวก่อนหน้านี้

Jason William Hamm ยังบอกว่า เขาไม่คิดว่าจะเกิดฟ้าผ่าใส่เครื่องบิน จึงทำให้เป็นคลิปวิดีโอที่น่าทึ่ง และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ก็ยังมีแสงไฟสว่างวาบบริเวณหางเครื่องบิน จนทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านหลังเขาพากันตกใจ

ถึงแม้เครื่องบินลำนี้จะถูกฟ้าผ่าใส่เครื่องบินแบบเต็มๆ แต่เครื่องบินก็ไม่เป็นอะไร และนักบินสามารถขับเครื่องบินไปจอดที่เกต หรือประตูขึ้นเครื่องบิน เพื่อส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ และหลังจากผู้โดยสารได้ลงจากเครื่องบินแล้ว ทีมช่างเทคนิคได้เข้ามาตรวจสอบว่าเครื่องบินได้รับความเสียหายหรือไม่

ชมคลิป : ที่นี่

ข่าวจาก : www.thairath.co.th

Cr ภาพ: twitter

แม่ช็อก! ลูกสาวถูกฟ้าผ่า กลางทุ่งนา ต่อหน้าต่อตา สิ้นใจที่ รพ.

แม่ช็อก! ลูกสาวถูกฟ้าผ่า กลางทุ่งนา สุดยื้อสิ้นใจที่ รพ. เผยกำลังจะกลับบ้าน ลูกเดินลงจากถนนไปเก็บรองเท้าที่คันนา ก่อนโดนฟ้าผ่าต่อหน้าต่อตา

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 ส.ค. 2565 เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ว่ามีหญิงชาวนาถูกฟ้าผ่ามีอาการสาหัส บริเวณริมถนนคันคลองชลประทาน กลางทุ่งนา หมู่ที่ 6 ต.ท่าช้าง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ขวัญเรือน อนันตศาลา อายุ 47 ปี ผู้บาดเจ็บ มีเลือดออกทางปากและจมูก พบรอยไฟไหม้ดำที่บริเวณลำคอ สัญญาณชีพต่ำมาก เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนนำตัวส่ง รพ.วิเศษชัยชาญ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นางอนันต์ อนันตศาลา อายุ 63 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนและลูกสาวออกมาสูบน้ำเข้านา ขณะกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน ในช่วงเย็นที่ฝนฟ้าเริ่มตั้งเค้า จึงนำเครื่องมือทางการเกษตรขึ้นจากท้องนามาไว้บนถนนคันคลองชลประทาน ระหว่างนั้นลูกสาวเดินลงไปเก็บรองเท้าที่ถอดอยู่ริมคันทางลงนา ก่อนโดนฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต

CR : KhaosodOnline

แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7214383

คิวบาเร่งดับไฟไหม้! หลัง “ฟ้าผ่า” คลังน้ำมัน พบดับแล้ว เจ็บ-หายพุ่ง 140 คน

คิวบาเร่งดับไฟไหม้! – วันที่ 7 ส.ค. เอเอฟพี รายานว่า หน่วยดับเพลิงคิวบาเร่งระดมกำลังดับไฟที่โหมไหม้ คลังน้ำมัน ขนาดใหญ่ในจังหวัดมาตันซัส ทางภาคตะวันตก ราว 100 กิโลเมตรทางตะวันออกจากกรุงฮาวานา เมืองหลวงของ ประเทศคิวบา

หลังเกิดเหตุฟ้าผ่าคลังน้ำมันดังกล่าวเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย มีผู้บาดเจ็บ 121 คน ในจำนวนนี้ 5 คนมีอาการสาหัส และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสูญหาย 17 นาย

View of the massive fire at a fuel depot, sparked overnight by a lightning strike, in Matanzas, in western Cuba, taken on August 6, 2022. Cuba asked for help Saturday to contain the massive fire that left 121 people injured and 17 firefighters missing. Some 800 people have been evacuated from the area. (Photo by Yamil LAGE / AFP)

ด้านทางการท้องถิ่นระบุว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงและต้องอพยพประชาชนราว 1,900 คนในพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากไฟไหม้ลุกลามจากคลังเก็บน้ำมันแรกไปยังคลังเก็บน้ำมันที่สองแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมเพลิงได้ในเร็วๆ นี้

สหภาพน้ำมันคิวบา (Cupet) บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของคิวบา เปิดเผยว่าคลังเก็บน้ำมันที่ถูกฟ้าผ่ามีขนาดบรรจุ 26,000 ลูกบาศก์เมตร และมีน้ำมันดิบอยู่ในคลังราวครึ่งหนึ่งในช่วงเกิดเหตุ ส่วนคลังเก็บน้ำมันที่สองที่ไฟลุกลามจากคลังน้ำมันแรกมีน้ำมันเชื้อเพลิงราว 52,000 ลูกบาศก์เมตร

สื่อทางการระบุคาดว่าเป็นความผิดพลาดของระบบสายล่อฟ้าสำหรับป้องกันฟ้าผ่า ขณะที่ ประธานาธิบดีมิเกล ดิแอซ-กาเนล ผู้นำคิวบา แถลงขอบคุณรัฐบาลเม็กซิโก เวเนซุเอลา นิคารากัว อาร์เจนตินา และชิลีต่อการส่งความช่วยเหลือ

Black smoke from an oil tank on fire is seen in Matanzas, Cuba, on August 6, 2022. The fire caused by lightning on Friday in a fuel depot in Matanzas, in western Cuba, spread to a second tank at dawn this Saturday and caused 121 injuries, official sources reported. (Photo by YAMIL LAGE / AFP)

Firefighters are seen near the fire on oil tanks in Matanzas, Cuba, on August 6, 2022. The fire caused by lightning on Friday in a fuel depot in Matanzas, in western Cuba, spread to a second tank at dawn this Saturday and caused 121 injuries, official sources reported. (Photo by YAMIL LAGE / AFP)
Firefighters walk to a bus near the fire on oil tanks in Matanzas, Cuba, on August 6, 2022. The fire caused by lightning on Friday in a fuel depot in Matanzas, in western Cuba, spread to a second tank at dawn this Saturday and caused 121 injuries, official sources reported. (Photo by YAMIL LAGE / AFP)
CR : Khaosod

 

 

 

ฟ้าผ่าเปรี้ยง! หลบฝนกระท่อมกลางนา ตาย 1 เจ็บ 5 ตร.-กู้ภัยสุดผวากลัวโดนซ้ำ

สลดชาวนา พากันมาช่วยกันฉีดยาคุมหญ้าเตรียมปลูกข้าว ฝนลมกระหน่ำฟ้าแรงน่ากลัวรีบเข้าไปหลบ ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกระท่อมดับทันที 1 ศพ ล้มเจ็บอีก 5 ตำรวจ-กู้ภัยไปตรวจสอบเก็บศพ สุดผวาฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นระยะเมื่อเวลา 16.03 น. วันที่ 24 มิ.ย.2565 ร.ต.ท.หญิง สาวิตรี ภูษา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งเกิดเหตุฟ้าผ่าชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บบริเวณกระท่อมกลางทุ่งนา หมู่ 1 ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงประสานแพทย์รพ.เพชรบูรณ์ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์

 

ที่เกิดเหตุยังมีฟ้าร้องและฟ้าแลบเป็นระยะๆ ภายในกระท่อมกลางทุ่งนา พบศพชาย อายุ 47 ปี และผู้บาดเจ็บเป็นชายอีก 5 ราย อายุ 25 ปีถึง 47 ปี โดยบริเวณเสาปูนมีร่องรอยถูกฟ้าผ่า ส่วนบนพื้นฟ้าผ่าเป็นหลุม เจ้าหน้าที่กลัวฟ้าผ่าลงมาซ้ำจึงรีบนำผู้บาดเจ็บและศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

สอบสวนญาติ ทราบว่า ทั้งหมดมาช่วยกันฉีดยาคุมหญ้าเพื่อเตรียมปลูกข้าว แต่ในวันนี้ฝนฟ้าแรงมาก จึงได้พากันไปหลบอยู่ในกระท่อม แต่ปรากฎว่าฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาที่กระท่อมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งที่ผ่านมาที่ทุ่งนาแห่งนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าคนตายมาก่อนเลย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

CR : KhaosodOnline

แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7128353

 

 

 

 

สุดสะพรึง! นิวซีแลนด์เจอปรากฎการณ์หายาก “ฟ้าผ่า” กว่า 100,000 ครั้งในรอบสัปดาห์เกิดพายุ สเปน-ทางใต้ฝรั่งเศสโดนฮีทเวฟระลอก 2

 

เอเจนซีส์ – นิวซีแลนด์เจอปรากฎการณ์ที่หายากเกิดปรากฎการณ์ฟ้าผ่าทั่วประเทศทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้นับได้ 111,621 ครั้งระหว่างวันที่ 6 มิ.ย-วันที่ 11มิ.ย ชาวกรุงเวลลิงตันสุดแตกตื่นเจอฟ้าผ่าทุกวันตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมา ขณะที่สเปนและทางตอนใต้ของฝรั่งเศสพบกับคลื่นความร้อนระลอก 2 ผู้เชี่ยวชาญชี้เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติในปีนี้

เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(13 มิ.ย)ว่า แนวปะทะอากาศเย็น หรือ cold front สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินในนิวซีแลนด์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและพายุทอร์นาโดรวมไปถึงเกิดหิมะตกครั้งใหญ่ที่สกีรีสอร์ท แต่ไม่เท่ากับการเกิดปรากฎการณ์ฟ้าผ่าทั่วประเทศกว่า 100,000 ครั้ง

ปรากฎการณ์สุดประหลาดทางสภาพอากาศนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 6 มิ.ย-วันที่ 11มิ.ยที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักงานอุตุนิยมวิทยานิวซีแลนด์ เมตเซอร์วิส( Metservice)ได้เปิดเผยว่าในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถนับการเกิดฟ้าผ่าทั่วนิวซีแลนด์และน่านน้ำใกล้เคียงได้ถึง 111,621 ครั้ง

ชาวกรุงเวลลิงตันต่างเป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้ได้อย่างดีเพราะตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมาพวกเขาต้องตื่นมาเจอฟ้าผ่าทุกวันอย่างน่าสุดสะพรึงพร้อมไปกับการเกิดระหว่างพายุลูกเห็บและลมกระโชกแรงจัดในช่วงเวลาสั้นๆ

ทั้งนี้พบว่าแนวปะทะอากาศเย็นจากมหาสมุทรทางใต้และข้ามทะเลทัสมาเนียได้นำสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจมายังนิวซีแลนด์เป็นเวลาไม่กี่วัน

หนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงมากที่สุดจากพายุคือเมือง Waikanae ซึ่งเป็นเมืองที่ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตรโดยมีรายงานว่าเกิดพายุทอร์นาโด 2 ลูกในคืนวันจันทร์(13)

หลุยส์ เบอร์แมนส์(Louise Buurmans) วัย 91 ปีเป็นหนึ่งในผู้ที่โชคร้ายหลังเพดานบ้านได้รับความเสียหายจากพายุ เธอให้สัมภาษณ์กับ TVNZ ว่า ประสบการณ์ที่เจอมันช่างเลวร้ายมาก

ขณะที่ชาวออกแลนด์ต้องพบกับฝนและลมอย่างหนักในวันจันทร์(13)ส่วนสะพานออกแลนด์ฮาร์เบอร์ (Auckland harbour bridge)ปิดเป็นระยะๆเนื่องมาจากการพัดเข้ามาของลมกระโชกที่มีความแรงของลมสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนที่เมืองเกรย์มัธ( Greymouth )บนเกาะใต้พบกับน้ำท่วมฉับพลันอย่างไม่คาดฝันเหมือนเช่นเดียวกับชุมชนต่างๆบนชายฝั่งตะวันตก

สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจยังเกิดขึ้นที่ยุโรปโดยผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาชี้ว่า คลื่นความร้อนฮีทเวฟเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมในปีนี้และเกิดบ่อยขึ้นขณะที่อุณหภูมิกำลังไต่ขึ้นสูง

เดอะการ์เดียนรายงานว่า สเปนและภาคใต้ของฝรั่งเศสเผชิญกับคลื่นความร้อนระลอกสองของปี โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศส เมเตโอฟรานซ์( Météo France) แถลงว่า อุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาเซลเซียสใกล้กับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และจะสูงขึ้นมากกว่านี้ตั้งแต่กลางสัปดาห์เป็นต้นไปขณะที่มวลความร้อนมุ่งหน้าไปทางเหนือพร้อมไปกับบางพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้และโรน แวลลีย์(Rhone valley)มีอุณหภูมิแตะ 39 องศาเซลเซียสไปแล้ว

นักอุตุนิยอมวิทยาฝรั่งเศส ปาทริค เกลัวส์( Patrick Galois )เปิดเผยว่ากรุงปารีสคาดว่าน่าจะมีอุณหภูมิสูงที่ 35 องศาเซลเซียส

โดยคลื่นความร้อนสูงสุดจะเกิดระหว่างวันพฤหัสบดี(16)ไปถึงวันเสาร์(18) ถือเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดได้น้อยครั้งในเดือนมิถุนายนและหากว่าได้รับการยืนยันจะกลายเป็นว่า ฝรั่งเศสผจญกับฮีทเสฟรอบ 2 เร็วกว่าปกติในปีนี้

ด้านสเปนพบกับคลื่นความร้อนเช่นกัน เดอะการ์เดียนกล่าวว่า สเปนพบกับอุณหภูมิสูงสุดกว่าที่เคยปรากฎในรอบ 20 ปีเป็นอย่างน้อยโดยมีอุณหภูมิถูกวัดได้ที่ 40 องศาเซลเซียสในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เซบียา (Seville) และ กอร์โดบา (Córdoba )ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง ส่วนหุบเขากวาดียานา( Guadiana valley )พบกับอุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิ 43 องศาเซลเซียสในพื้นที่อื่นๆทางใต้ของสเปน

โฆษกสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสเปน เอเมต( Aemet) กล่าวยืนยันว่า “เรากำลังเผชิญหน้ากับอุณหภูมิสูงที่ไม่ปกติสำหรับเดือนมิถุนายน” พร้อมกับเสริมว่า ปรากฎการณ์ฮีทเวฟนี้ถือว่าเกิดขึ้นเร็วสุดอันดับที่ 3 ของการบันทึกและเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นเร็วนับตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา

นอกเหนือจากคลื่นความร้อนแล้วฝรั่งเศสยังต้องพบกับสภาพแล้งจัดโดย 35 จังหวัดในฝรั่งเศสได้ออกประกาศจำกัดการใช้น้ำก่อนหน้า ขณะที่ทั่วทั้งโปรตุเกสถูกประกาศให้อยู่ในสถานะแล้งขั้นรุนแรงภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม อ้างอิงจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาโปรตุเกสอิปมา(Ipma)

CR : MGRONLINE

แหล่งที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9650000056321

อุทาหรณ์ ฝนตกหนัก สาวใหญ่ต้อนวัวกลางทุ่ง ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว-เป็นศพสลด

สลด สาวใหญ่ 53 ออกไปกลางทุ่งต้อนวัวเข้าคอก ช่วงฝนตกหนัก ถูกฟ้าผ่าเปรี้ยง-ล้มทั้งยืนนอนแน่นิ่ง ญาติรีบหามส่ง รพ. สุดท้ายช่วยไม่ทัน-เสียชีวิต ผัวฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดเหตุฟ้าผ่าชาวบ้านบริเวณกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านตะไก้ ม.2 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ญาติเร่งนำตัวส่ง รพ. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่บ้านผู้เสียชีวิต พบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุดเมืองแฝก กำลังนำร่างผู้เสียชีวิตลงจากรถ เพื่อให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติๆ และชาวบ้าน ที่มาช่วยกันจัดเตรียมงานศพ จากการสอบถามทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางวนิดา สหัสรัมย์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.2 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จากการสังเกตสภาพศพ พบบริเวณรูหูด้านขวามีเลือดไหลออกมา

จากการสอบถาม นางทองใบ เจริญสุข หลานผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีศักดิ์เป็นอาของตน ช่วงก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายออกไปทุ่งนา ขณะนั้นฟ้ามืดครึ้มฝนเริ่มตั้งเค้า ตนอยู่ในกระท่อม ส่วนผู้ตายบอกว่าจะไปย้ายวัวที่ผูกไว้กลางทุ่งนาเข้าคอก จนกระทั่งฝนตกลงมาอย่างหนัก ผ่านไปสักพักตนได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังมาก แต่ไม่รู้ว่าผ่าอะไร พอฝนหยุดสามีของผู้ตายก็มาตาม จนกระทั่งมาพบผู้ตายถูกฟ้าผ่าดังกล่าว

ขณะที่ นางทองทูล เจริญสุข หลานอีกคนของผู้ตาย เล่าว่า เมื่อทราบว่าอาถูกฟ้าผ่า ตนก็รีบเอารถเข็นไปรับร่างอารีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันอาเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ญาติพี่น้องรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก แต่ตนก็แปลกใจว่า ขณะเกิดฟ้าผ่าวัวที่ผูกไว้เป็นฝูงทั้งหมด 9 ตัว กลับไม่โดนฟ้าผ่าเลยสักตัว แต่กลับเป็นอาที่โดนฟ้าผ่า ซึ่งหลังเกิดเหตุวัวทั้งหมดก็ไม่ได้ไปไหน แต่กลับยืนล้อมร่างอาไว้เหมือนเป็นห่วง

ด้าน นายสะการ มุ่งดี อายุ 50 ปี สามีผู้ตาย เล่าว่า ตนเคยเตือนภรรยามาตลอดว่า ขณะฝนตกห้ามเอาวัวกลับเข้าคอก ให้อยู่ในกระท่อมรอฝนหยุดก่อน แต่ภรรยาก็ไม่ฟัง ส่วนสาเหตุที่ฟ้าผ่าภรรยาครั้งนี้นั้น ตนสันนิษฐานว่าเป็นเพราะต่างหูเงินรูปดาวที่ภรรยาใส่ประจำ อาจจะเป็นสื่อล่อฟ้าขณะอยู่กลางทุ่งนาตอนฝนตก ซึ่งหลังเกิดเหตุต่างหูข้างซ้ายได้หลุดหายไป อาจเกิดจากฟ้าผ่า ประกอบกับสภาพศพเมียมีเลือดไหลออกมาจากบริเวณรูหู ดังนั้นตนจึงอยากใช้เหตุการณ์ครั้งนี้ ฝากเตือนคนอื่นไว้เป็นอุทาหรณ์ด้วย.

CR : thairathonline

แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2394042

หญิงออกไปต้อนวัวเข้าคอก ฟ้าผ่าเปรี้ยง ดับกลางทุ่ง สลด วัว9ตัวยืนเฝ้าศพ

ฝนตกหนัก หญิงวัย 53 ปี ออกไปต้อนวัวเข้าคอก ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว เสียชีวิตกลางทุ่งนา สลด วัว 9 ตัวยืนเฝ้าศพไม่ห่าง ผัวเผยสิ่งล่อฟ้า

วันที่ 17 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตะไก้ ม.2 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่า มีฟ้าผ่าชาวบ้านขณะเลี้ยงวัวจนเสียชีวิตอยู่บริเวณกลางทุ่งนา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุด ต.เมืองแฝก กำลังนำร่างของ นางวนิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้เสียชีวิต ไปส่งที่บ้านพักเพื่อให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ ๆ เป็นอย่างมาก

ฝนตกหนัก หญิงวัย 53 ปี ออกไปต้อนวัวเข้าคอก ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว เสียชีวิตกลางทุ่งนา สลด วัว 9 ตัวยืนเฝ้าศพไม่ห่าง

จากการสอบถาม นางทองใบ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี มีศักดิ์เป็นหลานของผู้ตาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนกับผู้ตายได้ออกไปทุ่งนา ขณะนั้นฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ตอนนั้นตนกับผู้ตายอยู่ในกระท่อมนา หลังจากฝนเริ่มตก ผู้ตายก็หันมาบอกกับตนว่า จะไปย้ายวัวที่ผูกไว้กลางทุ่งนาเพื่อกลับเข้าคอก

นางทองใบ กล่าวต่อว่า จากนั้น ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฟ้ามืดมองก็ไม่เห็น สักพักใหญ่ ๆ ได้ยินเสียงฟ้าผ่าดัง “เปรี้ยง” เมื่อฝนเริ่มหยุด เห็นวัวที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ 9 ตัว รวมตัวอยู่เป็นกลุ่มที่เดียว รู้สึกผิดสังเกต ตนจึงเดินไปดูก็พบว่า ฝูงวัวยืนเฝ้าศพเจ้าของที่โดนฟ้าผ่า

CR : Khaosod Online

แหล่งที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7052462